เมนู

เสด็จเข้าไปหาอาฬาดาบส



[489] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนราชกุมาร ก่อนแต่ตรัสรู้
แม้เมื่ออาตมภาพยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ ก็มีความคิดเห็นว่า ความ
สุขอันบุคคลจะพึงถึงได้ด้วยความสุขไม่มี ความสุขอันบุคคลจะพึงถึงได้ด้วยทุกข์
แล. ดูก่อนราชกุมาร สมัยต่อมา เมื่ออาตมภาพยังเป็นหนุ่ม มีผมดำสนิท
ประกอบด้วยวัยกำลังเจริญ เป็นปฐมวัย เมื่อมารดาบิดาไม่ปรารถนา [จะให้
บวช] ร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่ ได้ปลงผมและหนวด นุ่งห่าผ้ากาสายะ ออก
จากเรือนบวชเป็นบรรพชิต. ครั้นบวชอย่างนี้แล้ว แสวงหาว่าอะไรจะเป็นกุศล
ค้นคว้าสันติวรบทอันไม่มีสิ่งอื่นยิ่งขึ้นไปกว่า จึงได้เข้าไปหาอาฬารดาบส
กาลามโคตร แล้วได้กล่าวว่า ดูก่อนท่านกาลามะ ข้าพเจ้าปรารถนาจะพระพฤติ
พรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้ ดูก่อนราชกุมาร เมื่ออาตมภาพกล่าวเช่นนี้แล้ว
อาฬารดาบส กาลามโคตรได้กล่าวกะอาตมภาพว่า ท่านจงอยู่เถิด ธรรมนี้เป็น
เช่นเดียวกับธรรมที่บุรุษผู้ฉลาดพึงทำลัทธิของอาจารย์นั้นให้แจ้งชัดด้วยปัญญา
อันยิ่งเองแล้วบรรลุไม่นานเลย. อาตมภาพเล่าเรียนธรรมนั้นได้โดยฉับพลันไม่
นานเลย. กล่าวญาณวาทและเถรวาทได้ด้วยอาการเพียงหุบปากเจรจาเท่านั้น
อนึ่ง ทั้งอาตมภาพและผู้อื่นปฏิญาณได้ว่าเรารู้เราเห็น. อาตมภาพนั้นมีความ
คิดว่า อาฬารดาบส กาลามโคตร จะประกาศได้ว่า เราทำให้แจ้งชัดด้วย
ปัญญาอันยิ่งเอง บรรลุถึงธรรมนี้ด้วยเหตุเพียงศรัทธาเท่านั้น ดังนี้ ก็หาไม่
ที่จริง อาฬารดาบส กาลามโคตรรู้เห็นธรรมนี้อยู่. ครั้นแล้วอาตมภาพเข้าไปหา
อาฬารดาบส กาลามโคตรแล้วได้ถามว่า ดูก่อนท่านกาลามะ ท่านทำธรรมนี้
ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเอง บรรลุแล้วประกาศให้ทราบด้วยเหตุเพียงเท่าไร
หนอ. เมื่ออาตมภาพกล่าวเช่นนี้แล้ว อาฬารดาบส กาลามโคตรได้ประกาศ